วันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2556

รถเร็วที่สุดในโลกสายพันธุ์ใหม่

       
       วันนี้ผมได้ข้อมูลเรื่องของรถที่กำลังเป็นข่าวที่ดังสุดในโลกขนาดนี้ ด้วยความสามารถของความเร็วที่สุดในโลกมากกว่า 1,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อ่านไม่ผิดหรอกครับ พันกว่าจริงๆ ผู้เสนอแนวคิดนี้และลงทุนมหาศาลในการดำเนินการ คือ มหาเศรษฐีนักลงทุนชาวอเมริกัน มันเป็นแนวคิดที่น่าสนุกและสนใจมากทีเดียวครับ ลองอ่านกันดูนะครับ

         มหาเศรษฐีนักลงทุนชาวอเมริกัน อีลอน มัสก์ หนึ่งผู้ก่อตั้งบริการระดับโลกหลายๆอย่างหนึ่งในนั้นคือบริการ paypal ที่เราใช้จ่ายตังค์กันตอนซื้อของจากเว็บไซต์ต่างประเทศนั่นแหละครับ เค้าเปิดตัวโครงการก่อสร้างเจ้ารถไฟฟ้าความเร็วสูงปรี๊ดดดด "ไฮเปอร์ลูป" มันเป็นสุดยอดรถไฟเลยใช่มะล่ะครับ ความเร็วของมันบอกได้ว่าจะพาคุณเดินทางจากเหนือสุดของประเทศไปยังจุดต่ำสุดของประเทศไทยเราได้ภายในเวลา 1 ชั่วโมงสบายๆ เพราะอะไรน่ะหรอครับ ก็เพราะจากการประเมินประสิทธิภาพของมันแล้วสามารถทำความเร็วได้ถึง 1,220 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเลยล่ะ นั่นก็เท่ากับว่าคุณเดินทางจากกรุงเทพไปเชียงใหม่ได้โดยใช้เวลาไม่เกิน 40 นาทีเอง เจ๋งไปเลยใช่มั๊ยล่ะครับ บอกได้เลยว่าเร็วว่าการเดินทางโดยเครื่องบินในเส้นทางเดียวกันถึง 2 เท่าเลยล่ะครับ แต่น่าเสียที่มันคงไม่มีโอกาสได้เข้ามาให้คนไทยเราใช้กันเหมือน paypal ของคุณมัสก์เค้านะครับ ด้วยสาเหตุปัจจัยนานาประการที่ท่านทั้งหลายคงจะทราบกันดีอยู่แล้ว แต่ผมคงไม่ขอความเร็วขนาดพันกว่าหรอกครับ ขอแค่รถไฟความเร็วสูงให้มันเกิดจริงๆไวๆก็พอครับ         อย่างไรก็ตามครับโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงปรี๊ดนี้ก็ไม่ได้มีกำหนดที่จะเสร็จอย่างเป็นทางการครับ เบื้องต้นเค้าคาดการณ์กันไว้ว่าอีกซัก 4 ปีข้างนี้คงได้ยลโฉมกัน เริ่มอยากจะเห็นซะแล้วสิ ถ้านั่งอยู่ข้างในคงไม่ต้องชมวิวกันเลย ไม่มีใบไม้ปลิวเข้ามาได้อารมณ์คลาสสิคเหมือนบ้านเราแน่ๆครับ ที่น่าตื่นเต้นอีกเรื่องคืองบประมาณสำหรับโครงการก่อสร้างเจ้ารถไฟฟ้านี้สูงถึงเกือบแสนล้านดอลลาร์สหรัฐกันเลยทีเดียว ก็ประมาณเงินไทยที่รัฐบาลเค้าจะกู้มานั่นแหละครับ สองล้านล้านบาทกว่าๆ แต่ผู้อ่านหลายๆคนไม่ต้องเสียใจไปนะครับบ้านเราเองก็ได้เริ่มดำเนินโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงแล้วจริงๆอย่างเป็นรูปเป็นร่าง สังเกตได้ครับถ้าอยากเห็นลองดูรางรถไฟฟ้าบางแห่งตามชนบทก็มีการกั้นรั้วยาวตลอดแนวอย่างหนาแน่นครับ บางคนคิดในใจน้ำยังท่วมรางอยู่เลย อันนั้นผมไม่เถียงครับแต่เชื่อว่าจะได้ใช้กันอย่างแน่นอนสำหรับรถไฟฟ้าความเร็วสูงสำหรับบ้านเร็วครับ
        แต่เรื่องที่น่าเป็นห่วงก็ยังไม่หมดเท่านั้นครับ เรื่องใหญ่สำหรับโครงการรถไฟฟ้านั่นก็คือแหล่งพลังงานและการจ่ายพลังงานที่มีความเสถียรและมีความมั่นคงมากพอครับ และจากระบบไฟฟ้าของบ้านเราที่มีความต้องการพลังงานไฟฟ้าเพิ่มขึ้นปีละเป็นพันเมกกะวัตต์นั้นอาจจะต้องสร้างแหล่งพลังงานใหม่ๆเพื่อรองรับความต้องการในอนาคตอันใกล้นี้อย่างเร่งด่วน ซึ่งบ้านเราเองหรือแม้แต่โครงการรถไฟฟ้าที่ผมเล่าให้ฟังเองก็ต้องเตรียมแผนรองรับเรื่องนี้อย่างดีครับ ล่าสุดกระทรวงพลังงานได้มีการรณรงค์การเปลี่ยนอุปกรณ์จำพวกหลอดไฟให้เป็นหลอดประหยัดพลังงานกันมากขึ้นครับ แต่นั่นก็ไม่พอโครงการตามมาก็คือการรณรงค์ผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จากหลังคา ไม่ว่าจะเป็นหลังคาบ้านหรือหลังคาโรงงานก็ตาม ซึ่งข่าวล่าสุดคือสำหรับหลังงคาบ้านที่รณรงค์ไว้ 10 MW นั้นอาจจะต้องผิดหวังเพราะมีผู้มาสมัครเข้าร่วมไม่ถึงครึ่ง ยังลองดูมาตรการต่อไปของเค้าดูนะครับ ยังไงถ้ามีมาจะรีบนำมาเล่าให้ฟังอย่างด่วนเลยครับจะได้ไปเข้าร่วมกัน
        เช่นเคยครับถ้าใครมีคำถามที่อยากรู้เกี่ยวดับเรื่องของพลังงานหรือสิ่งแวดล้อมก็ฝากคำถามไว้ได้ครับ ผมจะรีบส่งไปต่อถามผู้เชี่ยวชาญมาตอบท่านโดยเร็วที่สุดครับ ในตอนหน้าจะเป้นเรื่องอะไรนั้นอย่าลืมติดตามชมกันนะครับ ขอบคุณครับ By The WE Plant

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น